ชกมวยสากล ของ เนตรน้อย ศ.วรสิงห์

หลายเดือนต่อมา มีผู้ชักชวนให้กลับมาชกมวยใหม่ โดยย้ายไปอยู่กับค่าย "ศ.วรสิงห์" ของ ธรรมนูญ วรสิงห์ และชกใหม่ในแบบมวยสากล ซึ่งการชกในแบบมวยสากลนี้ เนตรน้อยทำได้ดี มีหมัดที่หนักที่โดยเฉพาะหมัดซ้าย ในปี พ.ศ. 2518 เนตรน้อยชกชนะรวดทั้ง 7 ครั้ง มีแพ้อยู่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น "เศียรสมิง" คอลัมนิสต์มวยชื่อดังในสมัยนั้น จึงแนะนำให้เนตรน้อยเปลี่ยนเทรนเนอร์ใหม่เป็น ออมทรัพย์ แหลมฟ้าผ่า

เนตรน้อยกลับมาชนะติดกัน 2 ครั้ง และได้โอกาสชิงแชมป์รุ่นจูเนียร์ฟลายเวทของเวทีมวยราชดำเนิน แต่ปรากฏว่าแพ้น็อกเพียงแค่ยก 2 เท่านั้น ทางฝ่ายผู้จัดการ ธรรมนูญ วรสิงห์ จึงได้เปลี่ยนเทรนเนอร์เป็น สุดใจ สัพพะเลข โดยไปฝึกซ้อมอยู่ที่ใต้ถุนยิมเนเซี่ยม 1 สนามกีฬาแห่งชาติ เนตรน้อยจึงมีฝีมือดีขึ้นเรื่อย ๆ การชกก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ จนกระทั่งได้มีโอกาสชิงแชมป์ภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) กับ ชาง อิล ชุง นักมวยชาวเกาหลีใต้ ถึงถิ่นของแชมป์เอง เนตรน้อย ศ.วรสิงห์ ชกได้ดี แต่เมื่อครบ 12 ยก กรรมการตัดสินให้เสมอกันอย่างค้านสายตา